ไปเที่ยวกระบี่กลับมา สบ๊าาาย สบาย
แต่เสียดายที่ฝนตกหนักไปนี๊ดส์
เอาล่ะเริ่มมาวันแรก
14 sept 2007เราออกเดินทางโดย taxi ไปลงแถวๆวงเวียนหลักสี่
ลงป้ายรถเม แล้วก็รอ 554 ไดเร็ค ทู สุวรรณภูมิ
ไปถึงนั่นเวลากำลังดี ไม่มากไม่น้อย
ก่อนออกเดินทางมีฝนตกลงมาเล็กน้อย
โดยค่ารถไปสุวรรณภูมิก็ 34 บาทขาดตัว แปปเดียวก็ถึง
bus terminal แล้วนั่ง shuttle bus ไปที่อาคารขาเข้าอีก
บน shuttle bus (focus ผิดจุด)
ตอนนั้นก็เที่ยงแระ เลยไปหาไรกินที่ S&P ราคาก็โขกนักท่องเที่ยวเข้าไป
แพงได้อีกนะมึง
พอกินเสร็จก็เดินขาลากเข้าเกต B3(ไกลชิบหาย)
แล้วก็บินปรุ๊ดดด
ตอนนนี้ใกล้ถึงแระ
นี่เส้นอะไรก็ไม่รุ้เลยถ่ายมา
นี่ไง landing แล้ว เย่ๆๆ
Krabi airport
ไปถึงนั่น อิโรงแรมก็สร้าง first impression ให้เลย
มารับช้า
ดอกที่ 2 ก็คือ เอารถกระบะมารับแขกโรงแรม
โรงแรมอื่นเอารถตู้ รถเก๋ง มารับ โรงแรมกู๊ กะโหลก มาก
แล้วอิไกด์นี่ก็พูดมากจิ๊ง กุล่ะเบื่อเหนื่อยก็เหนื่อย
อยากเข้าไปนอนแผ่ในโรงแรมจะตายห่าแระ อินี่ดึงเกม
พาไปดูนั่นนี่
นี่เขาขนาบข้าง
แล้วก็ไปสุสานหอยต่อ
ไอ้กลมๆ ใหญ่ๆ นี่คือซากหอยที่อยู่มากว่า 75 million years
ไปดูสุสานหอยแต่ได้รูปแมวมา
แมวดำเซเลอร์มูน
ส้มโอ!!!! ตึง ไม่ใช่ นี่คือน้ำเต้า
แต่แล้วฝนก็ตกต่อ ไป city tour ไม่ได้ไว้ก่อนกลับ ค่อยมาเก็บที่เหลือต่อ
จากนั้นก็กลับโรงแรมมาพักผ่อน
แล้วก็กว่าจะมาถึงซะที กระบี่ เฮอรีเทจ
ห้องก็โอเค พอไปวัดไปวาได้ แต่ตอนนั้นทั้งโรงแรมมีแขกพัก 3 ห้อง
ร้างไปไหมอ่ะเท๊อออ
ได้ห้อง 414 มี sea view ด้วย เยี่ยมมาก
ตัวอย่างซีวิวจากเทอเรซ
แล้วก็นอนพักต่อ ตอนเย็นไปหาของกิน
ฝนก็ตกมาจิงจิ๊งง ตกได้ตกดี
หนาวก็หนาว เดินออกไปหาของกิน ไปเจอเจ๊ขายโรตี หน้า อ่าวนางปริ๊นวิว
ก็เลยถามว่าร้านไหนที่ฮอตๆ ชีตอบว่า "วังทราย ซีฟู้ด"
นั่นแหละ เป้าหมายของเรา
แล้วก็นั่งสามล้อไปเลย คนละ 20 บาท ส่งตรงหน้าร้านเลย
สั่งอาหารไป สามอย่าง
หอยชักตีนลวก
ต้มยำกุ้ง
กุ้งผัดเม็ดมะม่วง
ข้าว 2 จาน
น้ำมะพร้าว
น้ำเปล่า
เบ็ดเสร็จ 520
อาจจะแพง แต่จิงๆแล้วชั้นว่าไม่มากนะเมื่อเทียบกับ ขนาด และ ความอร่อย
เริ่ด เต็มสิ
กินไม่หมดอ่ะจานใหญ่สัด
กินเสร็จกลับมาโรงแรม พร้อมแดกพารา 2 เม็ด นอนหลับตอน 3 ทุ่มได้
15 Sept 2007วันนี้เรามี appointment for
4 + 1 island tourนัดตอน 8.30 น.
แต่รอตั้งนานก็ยังไม่มารับซะที
ก่อนไปเราไปเติมพลังงานกันก่อนน
omlete with bacon
แล้วทางบริษัททั้จะไปทัวร์ก็โทรผ่านมาทางโรงแรม
แล้วก็บอกว่า วันนี้ที่ เกาะห้อง มีฝนตก แล้วพยากรณ์บอกว่าตกทั้งวัน
เลยขอเสนอ 2 option โดยให้
1.พายเรือคายัก
2.เลื่อนไปทัวร์พุ่งนี้
แต่พุ่งนี้จะกลับ กทม แล้ว แล้วก็ไม่เอาเรือคายัก
เค้าก็เลยบอกว่างั้นก็อัพเกรดเป็นสปีดโบ้ทให้ แต่ว่าคงต้องตัดเกาะห้องออก
ก็เลยโอเคไป
แล้วตอน 9 โมงก็มีรถมารับไปท่าเรือ
ปรากฎว่ามีคนทั้งเรือ รอกุมา 5555
รุ้สึกเป็นคนพิเศษชิบหาย
แล้วก็ไปนั่งหน้าเรือสปีดโบ้ทเลย ไม่กลัวแดดจ้าา
ตูดคนทอดสมอ
นั่งสปีดโบ้ทไป แม่งซิ่งมากเหอะ
ยังกะเล่นไวกิ้ง
สะใจมากกก อยากนั่งอีก นั่งข้างหน้ายิ่งรับรู้ถึงคลื่นปะทะท้องเรือ
เสียวท้องน้อยเป็นระยะๆ
นี่
เกาะไก่ aka chicken island
ทะเลแหวก
แล้วเค้าก็พาไป snokling แถวๆเกาะไก่ แต่เสียดายที่วันนั้นฝนตกเป็นพักๆ
ทำให้น้ำทะเลไม่ใสเท่าที่ควร
ไม่เห็นนีโม่เลย
2 นิ้ว ท่าเบสิค
แอบถ่าย คู่ยุ่นที่ไปทริปด้วยกัน หล่อ สวย น่าอิจฉา
เกาะปอดะ aka Poda island
ลมมันพัดเสื้อนะ ไม่ใช่ตัวกูบวม
แล้วก็ไปถ้ำพระนางเห็นคนมาปีนหน้าผามากมาย
แล้วก็มีโรงแรมดุสิตที่ตั้งอยู่นี่ ได้ข่าวว่าคืนละแสน
โรงแรมคืนละแสน
กลับมาถึงโรงแรมอ่อนล้า แล้วก็มีนัดสปาตอน 17.30
รถมารับปรู๊ด ออกไปสปาโลด
(สังเกตว่า โรงแรมนี้ไม่มีสปาของตัวเอง)
ไป
นวด Aromatherapy สบ๊าาย สบาย
น้ำมันก็หอมมั่กๆ
มาตอนแรก เจ๊ก็มาล้างเท้าให้
แล้วก็ให้ถอดเสื้อผ้า แล้วใส่เสื้อคลุมแทน
แล้วเจ๊ก็มา นวดๆ คลึงๆ ลูปๆ
สบ๊ายสบาย
เจ๊แกทำดีมาก เลยทิปไปคนละ 100
แล้วก็กลับโรงแรมมี dinner รอเราอยู่ 5555
อาหารก็อร่อย มีคนเซอร์วิสดีมั่กมาย
พูดเยอะให้ข้อมูลเยอะ เอนเทอร์เทนเยี่ยม เอาทิปไป 40
แล้วก็ขึ้นห้องนอน เตรียมอ่านหนังสือ และดู AF
แล้วก็หลับไปในที่สุด
17 Sept 2007
ถึงวันกลับแล้ว
ตื่นมาฝนก็ตกเลย
วันนี้รถจะมารับ 8.00 พาไป city tour ต่อ
แล้วรถก็มารับตอน 9.00 เริ่ดดดดดดดดดด
ให้แขกรอได้อีก โรงแรมเหี้ยนี่
แล้ว city tour ที่เหลือคือ
วัดถ้ำเสือ อิห่า
แล้วนัดกุซะ 8 โมง
ก็เลยเป็นเหตุให้มาถึงสนามบินก่อนเวลา(นานมาก)
ตอนขึ้นเครื่องฝนก็ตกไม่หยุดหย่อน
ขย๊าาาน ขยัน
อยู่บนเครื่องก็ตกอยู่นั่นแหละ
ขึ้น AAS ช๊อบชอบ นอนสบาย ไม่มีแอร์ปลุกมาเสิร์ฟข้าวเสืร์ฟน้ำ
นอนสบาย รอให้คนข้างๆปลุกมาถ่ายรูปก็พอ อิอิ
คนข้างๆ
ปลุกมาถ่ายรูปนี้
อันนี้ของแถม
น่าจะปอดะ มั๊ง ไม่แน่ใจ
แล้วเราก็มาถึงสุวรรณภูมิอย่าง
ปลอดภัยจบ TRIP อย่างเป็นทางการ
